ถ้าคุณไม่อยากเจอปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นช่างทิ้งงาน ช่างใช้วัสดุอุปกรณ์ไม่ตรงตามสเปคที่ได้ตกลงกันเอาไว้ ช่างขอเบิกบ่อย ช่างทำงานล่าช้าโดยไม่มีเหตุอันควร ช่างไม่ใส่ใจในรายละเอียดในการสร้างบ้านและอื่น ๆ เราขอแนะนำให้คุณทำการตรวจสอบ บริษัทสร้างบ้าน ก่อนที่จะทำการว่าจ้าง และคุณอาจจะสงสัยว่าคุณต้องตรวจสอบเรื่องอะไรบ้าง มีข้อมูลอะไรที่คุณต้องรู้ก่อนเลือกใช้บริการ เราก็มีข้อมูลดี ๆ มาแนะนำกันแล้ว
1. บริษัทสร้างบ้าน ดำเนินธุรกิจมาแล้วกี่ปี?
คุณสามารถเช็กได้กับกรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต (หากมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือทำการเช็กประวัติของบริษัทสร้างบ้านแห่งนั้น
2. มีสถานที่ตั้งบริษัทเป็นหลักแหล่งหรือไม่
บริษัทสร้างบ้านที่มีสถานที่ตั้งบริษัทเป็นหลักแหล่งจะมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะอย่างน้อย ๆ ในกรณีที่เกิดปัญหา คุณก็สามารถมีสถานที่ติดต่อหรือมีสถานที่ตามตัวได้ จบปัญหาช่างทิ้งงานแล้วหนีหายไป
3. เช็กผลงานในอดีต
บริษัทสร้างบ้าน ที่มีประสบการณ์มานาน แน่นอนว่าจะต้องมีผลงานในอดีตเป็นโปรไฟล์เก็บไว้ให้คุณได้ศึกษาเพื่อเพิ่มการตัดสินใจ และขอให้คุณเช็คผลงานที่บริษัทสร้างบ้านแห่งนั้นเคยทำในอดีตอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างบ้าน การก่อสร้างอาคาร ระยะเวลาที่ใช้ในการสร้าง และข้อมูลสำคัญ ๆ อื่น ๆ
4. มีการแจ้งการดำเนินการต่อลูกค้าอย่างไร?
บริษัทสร้างบ้าน หลายแห่งเลือกจ้างสถาปนิกเป็นผู้ดูแลโครงการ ซึ่งสถาปนิกก็จะทำหน้าที่แทนคุณ ในการเยี่ยมชมไซต์งานก่อสร้าง และเช็กรายละเอียดในการก่อสร้างต่าง ๆ แต่บางบริษัทก็จะมีการแจ้งข้อมูลโดยตรงแก่ลูกค้าเลย เพราะจะได้ตัดค่าธรรมเนียมที่จะจ่ายให้กับสถาปนิกออกไป ดังนั้นปัจจัยในส่วนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณจะต้องใส่ใจ
5. สามารถให้คำปรึกษาด้านงบประมาณได้หรือไม่?
บริษัทสร้างบ้าน ที่คุณสนใจ สามารถนำเสนอการประหยัดต้นทุน ด้วยการแนะนำซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ให้แก่คุณได้หรือไม่ เช่น…แนะนำบริษัทจำหน่ายห้องครัว หน่ายห้องน้ำ ผู้ค้ากระเบื้อง และอื่น ๆ เพื่อที่คุณจะยังได้ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างบ้านที่มีคุณภาพแต่มีราคาที่ถูกลง เพราะลูกค้าแต่ละคนก็มีงบประมาณที่ต่างกัน ดังนั้นบริษัทสร้างบ้านที่ดีจะต้องนำเสนอข้อมูลในส่วนนี้ให้ลูกค้าเลือกเป็นตัวเลือกด้วย
และนี่ก็คือข้อมูลดี ๆ ที่คุณต้องทราบ ก่อนที่จะเลือกใช้บริการกับ บริษัทสร้างบ้าน สักแห่ง การก่อสร้างบ้านเป็นงานใหญ่เป็นงานที่ต้องใช้เวลา และต้องใช้เงินทุนอย่างหนัก อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่คุณจะใช้ชีวิตต่อไปอีกยาวไกลหลายสิบปีดังนั้นควรใส่ใจ ในทุกๆขั้นตอนของการก่อสร้างให้ดี เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
